ประวัติหมู่บ้าน



ประวัติบ้านโคกสว่าง (เหล่าเขมร) 


นับย้อนหลังเกือบ 200 ปี ณ ที่ราบลุ่มบริเวณลำน้ำมูลแถบอำเภอกันทรารมย์ ผู้คนมีอาชีพเกษตรกร หาปู หาปลา พอเลี้ยงปากเลี้ยงท้อง ที่ไหนมมีความอุดมสมบูรณ์ที่นั่นก็จะมีผู้คนอาศัยอยู่และที่ไหนเกิดความแห้งแล้วหรือเกิดโรคภัยไข้เจ็บก็จะมีการอพยพไปตั้งถิ่นฐานที่อื่น ชีวิตของผู้คนก็จะเป็นเช่นนี้ 
เช่นเดียวกันกับกลุ่มชนกลุ่มหนึ่ง ซึ่งได้ย้ายถิ่นฐานมาจากบริเวณบ้านเมืองน้อย อำเภอกันทรารมย์ จังหวัดศรีษะเกษ มาตั้งถิ่นฐานทำมาหากินที่บ้านหนองแสง จนกระทั้งปีพุทธศักราช 2453 ได้เกิดโรคภัย ไข้มาลาเลียระบาดและหมู่บ้านยังเกิดอาเพทผู้คนล้มตายเป็นจำนวนมาก บางรายก็ตายเพราะโรคติดต่อ บางรายก็ตายไม่ทราบสาเหตุสมัยนั้นผู้เฒ่าผู้แก่บอกว่า "ปอบ" กินทำให้ชางบ้านได้อพยพไปตั้งถิ่นฐานที่อื่นและมีชนกลุ่มหนึ่งได้ย้ายจากบ้านหนองแสงมาตั้งถิ่นฐานบริเวณ "หนองหอยและโนนลิ้นฟ้า" (ปัจจุบันคือบริเวณที่ตั้งบ้านเหม้า - หนองเรือ ตำบลละทาย อำเภอกันทรารมย์ จังหวัดศรีษะเกษ)  
และต่อมาปีพุทธศักราช 2470 คนชนกลุ่มนี้ประมาณ 12 ครอบครัว มีพ่อใหญ่จารย์น้อย พ่อใหญ่เพ็ง พ่อใหญ่ลอด พ่อใหญ่คำกุลา พ่อใหญ่หนู พ่อใหญ่มา พ่อใหญ่จารย์ปุการ พ่อใหญ่ติ่ง พ่อใหญ่มั่น พ่อใหญ่หมุ้ย พ่อใหญ่ขี้ตา พ่อใหญ่พรม ได้พาครอบครัวและลูกหลานอพยพข้ามลำน้ำมูลมายังบ้านหนองหินและได้นิมนต์พระภิกษุที่เคารพนับถือเป็นศูนย์รวมใจคือ "ญาคูกา สายเสน" (พระอธิกา กาติสสโร) จากบ้านหนองแสงมาเป็นเจ้าอาวาสวัดหนองหิน 
ต่อมาในปีพุทธศักราช 2478 ได้เกิดเหตุการณ์ไฟไหม้ โดยบ้านเรือนที่ถูกไฟไหม้คือกลุ่มชาวบ้านที่อพยพมาจากบ้านโนนลิ้นฟ้า เมื่อเหตุการณ์สงบลงเจ้าของบ้านที่ถูกไฟไหม้ต่างก็แยกย้ายกันไปปลูกบ้านอยู่ตามที่ต่างๆ บางครอบครัวไปปลูกบ้านในที่นา ซึ่งส่วนใหญ่มีที่นาอยู่ทางทิศตะวันตกของบ้านหนองหิน 
ต่อมาในปีเดียวกันนี้ ที่บ้านหนองหินได้เกิดเหตุการณ์เช่นเดียวกันกับที่บ้านหนองแสง มีผู้คนล้มตายด้วยโรค "ห่า" (ไข้ทรพิษ) ชาวบ้านจึงได้ย้ายบ้านมาอยู่ตามที่นาทางทิศตะวันตกที่เรียกว่า "เหล่าเขมร" ซึ่งคนเฒ่าคนแก่เล่าว่าบริเวณนี้เคยมีชาวเขมรมาอาศัยอยู่และถางป่าปลูกข้าว ทำไร่ แล้วปล่อยทิ้งร้างไป เพราะบริเวณนี้ไกลจากแหล่งน้ำ ลำห้วยและทางเกวียน 
เมื่อผู้คนเริ่มทยอยย้ายบ้านมาปลูกในนาบริเวณทางทิศตะวันตก ของบ้านหนองหิน กลุ่มผู้เฒ่าผู้แก่ที่เป็นหัวหน้ากลุ่มจึงได้ชักชวนกันย้ายจากบ้านหนองหินมาตั้งบ้านใหม่ โดยเลือกเหล่าเขมรเป็นที่ตั้งหมู่บ้าน กลุ่มผู้เฒ่าผู้แก่ประกอบด้วยพ่อใหญ่น้อย พ่อใหญ่จามั่น ญาพ่อกำนันใส พ่อใหญ่พรม พ่อใหญ่ติ่ง พ่อใหญ่สีดา พ่อใหญ่ทองดี พ่อใหญ่จานหมู พ่อใหญ่คำกุลา พ่อใหญ่หยี่โดยพากันย้ายมาเมื่อวันที่ 10 มีนาคม 2480 ตรงกับวันพฤหัสบดี ขึ้น 9 ค่ำ เดือน 4 ปีฉลู 
ด้วยความเฉลียวฉลาดและวิสัยทัศที่ก้าวไกล บรรดาผู้นำเหล่านั้นได้วางผังหมู่บ้านตัดถนนให้กว้างขวางเป็นตารางสี่เหลี่ยมแล้วจึงกำหนดให้ปลูกสร้างบ้านเรือนตามผังที่วางไว้ ทำให้หมู่บ้านเป็นระเบียบเรียบร้อย 
เมื่อปลูกบ้านเรือนเสร็จแล้วจึงได้เลือกตั้งผู้นำหมู่บ้าน ซึ้งผู้ใหญ่มั่น สายเสน ได้รับเลือกตั้งให้เป็นผู้ใหญ่บ้านคนแรก ต่อมาได้ตั้งชื่อหมู่บ้านให้เป็นทางการโดยพร้อมใจกันให้ชื่อว่า "บ้านโคกสว่าง" ซึ่งแต่ก่อนบริเวณที่ตั้งหมู่บ้านมีผู้คนเคยเห็นลำแสงสีนวลเย็นตา พวยพุ่งขึ้นสู่ท้องฟ้า จึงนับเป็นนิมิตหมายอันดีว่าที่บริเวณนี้จะต้องเจริญรุ่งเรืองในภายภาคหน้า 
เมื่อตั้งบ้านแล้วชาวบ้านได้ช่วยกันรื้อบ้านหลังหนึ่งที่บ้านหนองหินซึ่งถูกไฟไหม้แต่เจ้าของทิ้งร้างไว้ ย้ายไปอยู่ที่หนองบัวฮี นำมาสร้างกุฏิขึ้น 1 หลัง บริเวณโพนกกท่อน และเป็นที่ตั้งวัดโคกสว่างในปัจจุบัน 
            ในปีเดียวกันนี้ชาวบ้านท่ากกไฮ (บ้านหนองกินเพล) ประมาณ 12 ครอบครัว ได้ย้ายเข้ามาจับจองที่ปลูกสร้างบ้านเรือนอยู่ด้วย โดยการนำของพ่อใหญ่หน่อ พ่อใหญ่หมา พ่อใหญ่สุนีย์ พ่อใหญ่ก้อน พ่อใหญ่สิงห์ พ่อใหญ่คำภา พ่อใหญ่เขื่อง และได้ช่วยพัฒนาบ้านโคกสว่าง (เหล่าเขมร) จนเจริญรุ่งเรืองดังที่เห็นทุกวันนี้ ต่อมาเมื่อจำนวนประชากรเพิ่มขึ้นทางการจึงได้แยกการปกครองออกเป็น 2 หมู่บ้าน โดยบ้านโคกสว่างหมู่ที่ 7 มีผู้ใหญ่คำดี สายเสน เป็นผู้นำ และบ้านโคกใหม่พัฒนา หมู่ที่ 10 มีผู้ใหญ่วินัย โคตรพิลา เป็นผู้นำ 

รายชื่อผู้ใหญ่บ้านจากอดีต - ปัจจุบัน


๑.ผู้ใหญ่มั่น สายเสน

๒.ผู้ใหญ่สิงห์ บุญเสนอ

๓.ผู้ใหญ่ยู้ บุญมารอง

๔.ผู้ใหญ่คำดี สายเสน

๕.ผู้ใหญ่วินัย โคตรพิลา (ผู้ใหญ่บ้าน บ้านโคกใหม่พัฒนา)

๖.ผู้ใหญ่ทองคูณ โคตพิลา (ผู้ใหญ่บ้าน บ้านโคกสว่าง) ปัจจุบัน

๗.ผู้ใหญ่ตึ๋ง ทองนาค (ผู้ใหญ่บ้าน บ้านโคกใหม่พัฒนา)

๘.นายบุญมี นันทบรรณ (ผู้ใหญ่บ้าน บ้านโคกใหม๋พัฒนา) 2 ก.พ. 2556 - ปัจจุบัน

ข้อมูล ณ พ.ศ. ๒๕๕๗